ร้อนแล้วติดยาก หรือร้อนแล้วไม่ติดเลย อันไหนกันแน่ ?

ร้อนแล้วติดยาก หรือร้อนแล้วไม่ติดเลย อันไหนกันแน่ เป็นคำถามที่ผมมักได้รับจากลูกค้า ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วอาการนี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผมรู้สึกว่ามีผลต่อการใช้งานของ เลื่อยโซ่ และ โซ่เลื่อยยนต์ โดยเฉพาะในช่วงที่เครื่องร้อน การเข้าใจสาเหตุและแนวทางแก้ไขจึงเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น

อาการนี้เป็นเรื่องที่ผมลำบากใจมาก เพราะเมื่อตรวจสอบเครื่องที่นำมาซ่อมในสภาพเครื่องเย็น อาการไม่ติดต่อกันหรือมีความผิดปกติที่ชัดเจน แต่เมื่อต้องนำเครื่องไปทดสอบในช่วงเครื่องร้อน กลับพบว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งในกรณีนี้ต้องเข้าใจว่าการสังเกตอาการนั้น ต้องพิจารณาในบริบทของการใช้งานและการตั้งค่าของเครื่องยนต์อย่างละเอียด มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดจากการตั้งค่าเบื้องต้น เช่น การปรับจูนของระบบจ่ายน้ำมันหรือคอยไฟ รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ของเครื่องยนต์ เช่น บาร์เลื่อยต์ สภาพของสายพาน หรือแม้แต่คุณภาพของน้ำมันที่ใช้

อย่างไรก็ตาม การบอกว่าอาการนั้นเกิดจากสาเหตุใด เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะบางครั้ง คอยไฟก็ไม่ได้เป็นตัวแปรหลักเสมอไป เช่น เคยพบเครื่องที่จูนมาในระดับปกติ แต่เจ้าของต้องการให้ประหยัดน้ำมัน จึงลดอัตราการจ่ายเชื้อเพลิงลง ผลปรากฏคือเมื่อลองใช้ในสภาพเครื่องร้อน กลับพบว่าเครื่องมีอาการติดยาก หรือไม่ติดเลยในบางกรณี ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการใช้งานของ บาร์เลื่อยยนต์ ความเข้าใจในกลไกการทำงานของเครื่องจักรส่วนนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเครื่องยนต์ เช่น การปรับจูนกล่องควบคุมหรือการตั้งค่าคอยไฟเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

จากการทดลองปรับแต่ง ระบบน้ำมันและการล่อน้ำมันในเวลาที่เครื่องร้อน พบว่าถ้าทำให้ส่วนผสมของน้ำมันและอากาศในระบบเครื่องจักรถูกปรับให้ตรงตามความเหมาะสม จะทำให้เครื่องสามารถสตาร์ทติดได้ง่ายขึ้น แม้ในสภาพเครื่องร้อน การล่อน้ำมันเพื่อปรับสมดุลนี้ ช่วยลดอาการติดยากหรือไม่ติดในเวลาที่เครื่องร้อน ซึ่งเป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับผู้ใช้งาน โซ่เลื่อยยนต์ โดยเฉพาะในงานตัดไม้หรือเก็บเกี่ยวที่ต้องใช้งานเครื่องต่อเนื่องเป็นเวลานาน

สำหรับสมมุติฐานที่ว่าการจูน L ที่บางเกินไปเป็นสาเหตุของอาการนี้ ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ผมได้สังเกตเห็น เนื่องจากเมื่อเครื่องร้อน อุณหภูมิของน้ำมันในถังจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำมันขยายตัว ส่งผลให้ส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงในระบบจ่าย อาจจะลดความหนาแน่นลง ซึ่งส่งผลต่อการจุดระเบิดและการสตาร์ทของเครื่องในสภาพเครื่องร้อน ผลจึงเป็นว่าการเติมน้ำมันให้หนาขึ้นโดยการปรับแต่งค่าได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เครื่องสามารถสตาร์ทติดดีขึ้นในทุกสภาพอากาศและอุณหภูมิ

แต่หากพบว่าในบางกรณี เมื่อเครื่องร้อนแล้วสตาร์ทไม่ติดและการล่อน้ำมันก็ไม่ได้ผล ผมมั่นใจได้ว่า ปัญหาอาจอยู่ที่คอยไฟเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการจุดระเบิด การตรวจสอบและเปลี่ยนคอยไฟให้มีคุณภาพสูง เช่น คอยไฟสตีล (Stihl) ที่มีความทนทานและเสถียรภาพ จะเป็นขั้นตอนที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกในการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์ของคุณจะสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้งในอนาคตอันใกล้และยาวนานขึ้น

กลับไปยังบล็อก

แสดงความคิดเห็น

โปรดทราบว่าความคิดเห็นจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะได้รับการเผยแพร่